วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ฯ หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ 2 ตั้งอยู่ที่ ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ตำบลโสนลอย อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เดิมทีเป็นเพียงโรงเจขนาดเล็ก ต่อมาเจ้าอาวาสวัดเล่งเน่ยยี่ กรุงเทพมหานคร ร่วมกับพุทธบริษัทไทย-จีน ได้พัฒนามาเป็นวัดที่สมบูรณ์แบบอย่างสวยงาม ในเนื้อที่ 12 ไร่ เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นวัดเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ในโอกาสมหามงคลทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี โดยมีสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก เสด็จเป็นองค์ประธานวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้ทรงพระราชทานนามว่า “วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ คณะสงฆ์จีนนิกายรังสรรค์” อันนำมาซึ่งความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อชาวไทยเชื้อสายจีนมาโดยตลอด
วัดนี้ใช้เวลาดำเนินการก่อสร้างถึง 12 ปี จึงแล้วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 (สมเด็จบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในขณะนั้น) เสด็จฯ แทนพระองค์ ประกอบพิธีสมโภช เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2551
วัดเล่งเน่ยยี่ 2 ได้ก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมจีนในยุคหมิง-ชิง โดยจำลองมาจากพระราชวังต้องห้ามในกรุงปักกิ่ง มีความสง่างามและมีรายละเอียดการตกแต่งที่ประณีต ซึ่งทางวัดได้เชิญช่างฝีมือชั้นครูจากประเทศจีนมาดำเนินการก่อสร้างโดยตรง วิหารแต่ละหลังประดับด้วยลวดลายภาพเขียนสีพุทธศิลป์แบบจีน มีการใช้สีน้ำเงิน แดงและทองเป็นหลัก ตามผนังและเพดานมีคาถา โอม มา นี ปะ หมี่ ฮง เป็นอักษรสีทอง ที่เชื่อว่าขับไล่สิ่งชั่วร้ายต่างๆ ได้ หลังคาวิหารมุงด้วยกระเบื้องดินเผาแบบจีน สีเหลืองเข้ม ที่ตรงมุมหลังคาทั้ง 4 มุมประดับด้วยรูปสัตว์มงคล ได้แก่ เทวดาขี่หงส์ มังกร สิงโต ม้าน้ำ ม้าเทวดา แพะเทวดาเขาเดียว กระทิงเทวดา ปลาเทวดาและนกเค้าแมว นอกจากนี้ บริเวณรอบพระวิหารยังประดับด้วยหินแกะสลักต่างๆ มากมายจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จึงเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งซึ่งเหมาะอย่างยิ่งแก่การศึกษาพุทธศิลป์ของจีน ซึ่งภายในพระอารามแห่งนี้ แบ่งเป็นสัดส่วนตามแบบวัดหลวง โดยลักษณะตัวอาคารมีทั้งหมด 4 ชั้น คือ
ชั้นที่ 1 เป็นหอฉันและกุฏิของสงฆ์
ชั้นที่ 2 ตรงกลาง มีวิหารจตุโลกบาลตั้งอยู่ด้านหน้าสุด ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระศรีอริยะเมตไตรยโพธิสัตว์ และธรรมบาลทั้งหลาย คือ ท้าววิรุฬหกมหาราช ท้าวธตรัฐมหาราช ท้าวกุเวรมหาราช (เวชสุวรรณ) ท้าววิรูปักษ์มหาราช และเทพต่างๆ อีก 8 องค์ ด้านข้างของวิหารจตุโลกบาล มีหอเล็กๆ 2 หลังขนาบอยู่ ทางด้านซ้ายคือหอกลอง ภายในมีกลองใบใหญ่สีแดง และทางด้านขวาของวิหารเป็นหอระฆัง ภายในมีระฆังสำริดขนาด 195 เซนติเมตร ถือเป็นระฆังใบใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งทั้งกลองและระฆังนี้นำมาจากเมืองซัวเถา ประเทศจีน
ชั้นที่ 3 เป็นที่ตั้งของพระอุโบสถ ตรงกลางประดิษฐาน 3 พระประธาน คือ พระพุทธเจ้า พระศรีศากยมุนีพุทธเจ้า พระอมิตาภพุทธเจ้า และพระไภษัชยคุรุไวฑูรย์พุทธเจ้า ถัดจากพระอุโบสถไปยังด้านหลังเป็น “วิหารอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์” ภายในประดิษฐานพระอวโลกิเตศวรสหัสกรสหัสเนตรมหาโพธิสัตว์ หรือพระกวนอิมมหาโพธิสัตว์ปางพันมือพันตา แกะสลักจากไม้สักขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ชั้นที่ 4 มีวิหารสุขาวดีหมื่นพุทธ ที่ผนังรายล้อมด้วยพระพุทธรูปองค์เล็กๆ หนึ่งหมื่นพระองค์สีทองอร่าม สวยงามเป็นอย่างยิ่ง

การได้มาทำบุญไหว้พระที่วัดเล่งเน่ยยี่ 2 นี้ ถือเป็นการเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต ได้พักผ่อนกายใจให้ไปอยู่ในโลกของทางธรรม แถมได้ชมสถาปัตยกรรมงานศิลป์แบบของจีนแท้ๆ ได้ทั้งความสุขทางใจและสายตาไปพร้อมๆ กัน
วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ฯ หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ 2 เปิดทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.00 – 17.00 น. และเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 08.00 – 18.00 น.

การเดินทาง
นั่งรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ลงที่สถานีคลองบางไผ่ ออกทางออกที่ 1 แล้วต่อรถโดยสารประจำทางสาย 127 ไปจนสุดสาย เดินอีกนิดก็จะถึงวัด หรือจะเรียกใช้บริการรถแท็กซี่เพื่อไปยังวัดก็ได้ ราคาประมาณ 60 บาท

 3,330 total views,  1 views today

Comments

Share.

Comments are closed.

Exit mobile version