จากที่มีข่าวการระบาดของโรคไข้ซิกาในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาและแคริบเบียน ซึ่งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (US-CDC) ประกาศเตือนพลเมืองของสหรัฐที่เป็นหญิงตั้งครรภ์ในทุกระยะของการตั้งครรภ์ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่ระบาด 14 ประเทศ ได้แก่ บราซิล โคลอมเบีย เอลซัลวาดอร์ เฟรนช์เกียนา กัวเตมาลา เฮติ ฮอนดูรัส มาร์ตีนิก เม็กซิโก ปานามา ปารากวัย ซูรินาเม เวเนซุเอลา และเครือรัฐเปอร์โตริโก
โรคไข้ซิกา (Zika fever) เกิดจากการติดเชื้อไวรัสซิกา อยู่ในตระกูลฟลาวิไวรัส (flavivirus) จำพวกเดียวกับ ไวรัสไข้เหลือง ไวรัสเดงกี ไวรัสเวสต์ไนล์ และไวรัสไข้สมองอักเสบเจอี มียุงลายเป็นแมลงนำโรค โดยมีระยะฟักตัวเฉลี่ย 4 – 7 วัน สั้นสุด 3 วัน ยาวสุด 12 วัน อาการที่พบบ่อย ได้แก่ มีไข้ ออกผื่น ตาแดง ปวดข้อ ข้อบวม ปวดหลัง อาจมีอาการอื่นๆ ได้ เช่น อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ต่อมน้ำเหลืองโต และอุจจาระร่วง ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง ยกเว้นในหญิงตั้งครรภ์ซึ่งอาจทำให้เด็กทารกที่คลอดมามีสมองเล็ก (microcephaly) หรือมีภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์
กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่เดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาดอย่างกว้างขวาง เช่น ทวีปอเมริกา และทวีปแอฟริกาตะวันตก โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ เพราะอาจติดเชื้อแล้วทำให้ทารกมีศีรษะเล็ก และสมองฝ่อได้ ส่วนในประเทศไทยพบผู้ป่วยยืนยันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 โดยเฉลี่ยปีละประมาณ 5 ราย ซึ่งไม่ถือว่าสูงผิดปกติ อัตราป่วยใกล้เคียงกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน อย่างไรก็ตามประเทศไทยมีระบบเฝ้าระวังโรคนี้แล้วตั้งแต่ปี 2556 ดังนั้นหากผู้เดินทางกลับจากประเทศที่มีการระบาดในวงกว้าง รวมทั้งหญิงตั้งครรภ์ที่อยู่ในประเทศไทยมีอาการไข้ ออกผื่น ตาแดง หรือปวดข้อ สามารถไปรับการรักษาและปรึกษาได้ที่ คลินิกเวชศาสตร์การท่องเที่ยวและการเดินทาง สถาบันบำราศนราดูร และโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัดสามารถรับการรักษาได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง ที่สำคัญยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคนี้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนควบคุมโรค 1422
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมควบคุมโรค

 2,616 total views,  1 views today

Comments

Share.

Comments are closed.

Exit mobile version