สวัสดีครับคุณผู้อ่าน เรากลับมาพบกันอีกครั้งในช่วงส่งท้ายฤดูเหมันต์ เดือนแห่งความรัก มองไปทางไหนโลกก็ดูเป็นสีชมพูไปหมด วันนี้ผมจะพาคุณผู้อ่านมาเที่ยวเชียงรายแบบชิลๆ ใช้เวลาในการเดินทางไม่มาก เน้นเที่ยวง่ายๆ สบายๆ เดินทางสะดวกครับ

คู่หูเดินทางเคยพาคุณผู้อ่านมาเที่ยวที่จังหวัดเชียงรายกันครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งแรกเราพาขึ้นไปบนยอดดอยสูงเพื่อรับแสงแรกของตะวันบนวนอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า ซึ่งนับว่าเป็นการเดินทางที่ทรหดอยู่ไม่น้อยเพราะต้องตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อนั่งรถขึ้นไปข้างบน จากนั้นลงเดินต่อเพื่อไปยังจุดชมวิว ที่สำคัญเป็นการเดินขึ้นไปเรื่อยๆ ตามแนวทางเดินเล็กๆ เลียบยอดหญ้า เวลาเดินต้องระวังลื่น เพราะถ้าเหยียบใบหญ้าที่มีน้ำค้างเกาะอยู่แล้วเท้าเราก็เปื้อนดินแดงก็จะเกิดอาการลื่นล้มได้ อย่าลืมพกไฟฉายไปด้วยนะครับ ใครมีกำลังขาแค่ไหนก็เดินได้ตามสะดวก เดินเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก แต่ต้องหลบทางให้คนข้างหลังด้วยนะ จากนั้นก็มองหาจุดชมวิวชัดๆ เพื่อรอถ่ายรูปแสงแรกของตะวัน ลมแรงสุดๆ เย็นทั้งอากาศหนาวทั้งลม เรียกว่าเราใช้อุปกรณ์กันหนาวแบบจัดเต็มสำหรับทริปนี้ ยังเอาไม่ค่อยอยู่เลย จากนั้นก็นั่งรอ รอ รอ… พอแสงแรกเริ่มมา ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสี อีกไม่กี่อึดใจพระอาทิตย์ลูกกลมโตก็ลอยขึ้นมาอยู่ตรงหน้าเรา ทำให้มองเห็นทะเลหมอกที่ขาวราวกับปุยนุ่นผืนใหญ่ปกคลุมเหล่าขุนเขาที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามและน่าประทับใจมากๆ ใครที่ยังไม่เคยไป ลองหาเวลาว่างออกไปสัมผัสกับธรรมชาติที่ไม่ต้องเซ็ตอัพกันดูนะครับ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

ย้อนอดีตกันไปพอหอมปากหอมคอแล้ว ทีนี้เรามาว่าด้วยเรื่องปัจจุบันกันบ้างนะครับ จังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศ ภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงสลับซับซ้อน อากาศดี เหมาะแก่การเพาะปลูกดอกไม้และพืชเมืองหนาว เป็นจังหวัดที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่สมัยเชียงแสนของพญามังราย (พ่อขุนเม็งรายมหาราช) ผู้ก่อตั้งเมืองเชียงรายบนพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำกก ซึ่งมีอนุสาวรีย์ท่านตั้งอยู่ในตัวเมือง บริเวณทางแยกที่จะไปอำเภอแม่จัน เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน

จากจุดนี้ให้นักท่องเที่ยวแวะกราบไหว้สักการะอนุสาวรีย์พญาเม็งรายมหาราชเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนออกเดินทางท่องเที่ยวครัว เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วให้ขับรถมุ่งหน้าตรงไปทางอำเภอแม่สาย เพื่อไปยัง พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ตั้งอยู่ที่ ต.นางแล อ.เมือง จ.เชียงราย สร้างขึ้นโดย อาจารย์ถวัลย์  ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ที่ได้ทิ้งผลงานเหล่านี้ไว้เป็นอนุสรณ์ให้แก่คนรุ่นหลังได้ศึกษาและเรียนรู้งานศิลปะผ่านผลงานของท่าน  ลักษณะของบ้านดำจะเป็นกลุ่มบ้านแบบล้านนาทาสีดำ ซึ่งเป็นสีโปรดของอาจารย์ และนี่ก็คือที่มาของชื่อ “บ้านดำ” นั่นเอง

ภายในบริเวณร่มรื่นไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ทอดแทรกอยู่ระหว่างตัวบ้าน และประติมากรรมกลางแจ้งต่างๆ ที่อาจารย์ได้สร้างสรรค์ไว้ พิพิธภัณฑ์บ้านดำเป็นที่เก็บรักษาของสะสมต่างๆ ที่อาจารย์ชื่นชอบ เช่น เขาควาย เขากวาง กระดูกสัตว์ โต๊ะไม้ขนาดใหญ่ บานประตูไม้แกะสลัก เป็นต้น เมื่อมาที่นี่นอกจากจะได้ชื่นชมงานศิลปะแล้ว ยังได้เห็นของสะสมแปลกตาที่หาชมได้ยากในสมัยนี้อีกด้วย เปิดเข้าชมฟรีทุกวัน เวลา 9.00 – 12.00 น. และ 13.00 – 17.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 053 776333

การเดินทาง จากแยกพ่อขุนเม็งราย ให้ขับตรงมาทางไปอำเภอแม่สาย เมื่อขับรถผ่านมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย ประมาณ 3 กิโลเมตร จะเห็นป้ายหมู่บ้านนางแลทางด้านซ้ายมือ ให้เลี้ยวเข้าซอย ขับไปตามทาง มีป้ายบอกเป็นระยะ ประมาณ 300 เมตร

เมื่อชื่นชมผลงานศิลปะของอาจารย์ถวัลย์  ดัชนี จนเต็มอิ่มแล้ว ก็ให้ขับรถมุ่งหน้าต่อไปทางอำเภอแม่จัน เพื่อไปชม ไร่ชาฉุยฟง ตามฉากละครดังทางช่อง 3 เรื่องรักออกอากาศ ที่มี อ๋อมอรรคพันธ์ และเชอรี่เข็มอัปสร แสดงนำ ไร่ชานี้อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนักประมาณ 30 กิโลฯ การเดินทางสะดวกสบาย เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่ต้องขับขึ้นเขาไปถึงดอยแม่สลองคุณก็จะได้พบกับไร่ชาสวยๆ ที่สุดแสนจะโรแมนติก สีเขียวของใบชาตัดกับสีท้องฟ้าสดใส เหมาะมากสำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูปลงโซเซียลเน็ทเวิร์คให้หลายๆ คนอิจฉากัน เสน่ห์ของไร่ชาฉุยฟงอยู่ตรงการปลูกบนเนินเขาที่มีความสูงลดหลั่นกันเป็นแนวโค้ง ทำให้การมองเห็นดูเป็นมิติน่าประทับใจ มีจุดให้แวะถ่ายรูปโพสต์ท่าสวยๆ หลายจุด ด้านบนสุดเป็นส่วนของร้านขายของที่ระลึก และผลิตภัณฑ์ใบชาอบแห้งของไร่ โดยแบ่งโซนด้านในสุดเป็นร้านอาหารที่ทำจากใบชา ทั้งของคาวและของหวาน รวมถึงเครื่องดื่มทั้งร้อนและเย็น รสชาติอร่อย ต้องลอง เปิดบริการทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น. โทร. 053 771563

แต่สำหรับใครที่อยากไปสัมผัสอากาศหนาวเย็นในหุบเขาบนดอยแม่สลอง หรือไปชมตลาดชาวเขา วิถีชีวิตชาวเขาประยุกต์ก็สามารถขับรถขึ้นไปเที่ยวชมหรือนอนค้างสักคืนก็ได้นะครับ รับรองบรรยากาศดี๊ดี อากาศเย็นตลอดทั้งปีครับ

หากเราใช้อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราชเป็นจุดศูนย์กลาง ผมจะพาคุณขับรถลงไปทางจังหวัดพะเยาเพื่อไปเที่ยวที่ วัดร่องขุ่น ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง ห่างออกมาประมาณ 15 กิโลฯ วัดร่องขุ่นเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 ถึงปัจจุบัน หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ซึ่งอยู่ห่างจากวัดพียง 20 กิโลเมตร เมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา แรงสั่นสะเทือนทำให้สิ่งก่อสร้าง ภาพเขียน และปฏิมากรรมบางส่วนที่อยู่ภายในวัดเกิดการชำรุดเสียหายเป็นอย่างมาก อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ผู้ออกแบบและก่อสร้าง จึงได้มีการปิดซ่อมบูรณะเพื่อสำรวจความเสียหายอยู่ระยะหนึ่ง ปัจจุบันได้เปิดให้ประชาชนได้เข้าชมกันตามปกติแล้ว ซึ่งยังคงความงดงาม อ้อนช้อย และวิจิตรบรรจงในสไตล์ของอาจารย์เฉลิมชัยเหมือนเช่นเคยครับ น่าภาคภูมิใจแทนคนจังหวัดเชียงรายจริงๆ ที่มีศิลปินผู้สำนึกรักแผ่นดินบ้านเกิดเช่นท่าน

เมื่อออกจากวัดให้ขับรถไปตามถนนสาย 1208 เพื่อมุ่งหน้าไปอีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตอันดับต้นๆ สิงห์ปาร์ค เชียงราย ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 99 หมู่ 1 บ้านแม่กรณ์ ต.แม่กรณ์ อ.เมือง จ.เชียงราย ห่างจากวัดร่องขุ่นประมาณ 7 กิโลฯ สิงห์ปาร์ค เชียงราย เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ด้านหน้าโดดเด่นด้วยรูปปั้นสิงห์สีทองตัวโต ซึ่งถือเป็นจุดไฮไลท์ที่ห้ามพลาดแชะรูปเด็ดขาด ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึง บริเวณโดยรอบจัดเป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ขนาดใหญ่ สีสันสวยสดใสงดงามมาก อากาศเย็นสบาย หากท่านใดต้องการเข้าชมฟาร์มสามารถทำได้ 2 วิธี คือ นั่งรถนำเที่ยวฟาร์มทัวร์พื้นที่ไร่ หรือปั่นจักรยานที่มีให้เช่าภายในบริเวณด้านใน เพื่อเข้าชมชีวิตสัตว์แห่งทุ่งหญ้าแอฟริกา ทั้งยีราฟและม้าลายอย่างใกล้ชิด ชมไร่ชาอู่หลงเขียวขจีบนเนื้อที่กว่า 600 ไร่ พร้อมเที่ยวชมอาณาจักรผลไม้ทั้งเมลอน สตรอเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ มัลเบอร์รี่ มะเฟืองยักษ์ สวนพุทราเนื้อหวานกรอบ เสาวรส ผลไม้นานาชนิด แปลงผักสลัดและสวนสมุนไพร พร้อมกิจกรรมตื่นเต้นท้าทายอีกหลากหลาย เข้าชมฟรี เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00 – 16.00 น.ในวันธรรมดามีบริการรถนำเที่ยวฟาร์มทัวร์ ออกทุก 60 นาที ส่วนในวันเสาร์และอาทิตย์มีรถออกทุก 20 นาที แต่จะให้ดีกรุณาโทรจองที่นั่งก่อนล่วงหน้าเพื่อความไม่ผิดหวัง โทร. 053 172870

และสำหรับท่านใดที่กำลังมองหามื้อพิเศษ สำหรับคนพิเศษ บริเวณด้านในของสิงห์ปาร์ค เชียงราย ได้เปิดเป็นร้านอาหารเลิศรส บรรยากาศดี ชื่อ ร้านอาหารภูภิรมย์ที่คัดสรรแต่อาหารอร่อย ดี มีคุณภาพรับรองลูกค้าเสมอ อิ่มทั้งท้อง แถมได้มองบรรยากาศธรรมชาติสวยๆ เรียกว่าเป็นมื้ออาหารที่คุ้มสุดคุ้มครับ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 22.00 น. โทร. 09 1576 0371

ฉบับนี้เราขอจบทริปท่องเที่ยวบนเส้นทางความสุข สนุกง่ายๆ ที่เชียงรายแต่เพียงเท่านี้ก่อน หากคราวหน้ามีอะไรใหม่ๆ เราไม่ลืมที่จะมาอัพเดทให้คุณผู้อ่านทราบแน่นอนครับ

การเดินทาง

โดยรถยนต์ส่วนตัว สามารถเดินทางได้ 3 เส้นทาง ได้แก่
1. เส้นทางนครสวรรค์ลำปางพะเยาเชียงราย จากรังสิตมาตามถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวง หมายเลข 32 ที่อำเภอวังน้อย จากนั้นผ่านจังหวัดอยุธยา สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก เข้าสู่จังหวัดลำปาง แล้วตรงไปจังหวัดพะเยา จนเข้าสู่เชียงราย รวมระยะทาง 830 กิโลเมตร
2. เส้นทางนครสวรรค์พิษณุโลกแพร่เชียงราย ใช้เส้นทางเดียวกับเส้นทางที่ 1 เมื่อไปถึงจังหวัดนครสวรรค์ให้เลี้ยวไปทางขวามือ ตามทางหลวงหมายเลข 117 (นครสวรรค์-พิษณุโลก) จากนั้นใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 11 (พิษณุโลก-เด่นชัย) จากจังหวัดพิษณุโลกผ่านจังหวัดอุตรดิตถ์จนถึงอำเภอเด่นชัยให้เลี้ยวไปทางจังหวัดแพร่ ตามทางหลวง หมายเลข 101 (แพร่-น่าน) จนถึงอำเภอร้องกวาง เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 103 ไปบรรจบกับถนนพหลโยธินที่อำเภองาว เข้าสู่จังหวัดพะเยา แล้วตรงต่อไปจนถึงเชียงราย ระยะทางประมาณ 804 กิโลเมตร
3. เส้นทางนครสวรรค์ลำปางเชียงใหม่เชียงราย ใช้เส้นทางเดียวกับเส้นทางที่ 1 จนไปถึงจังหวัดลำปาง จึงเปลี่ยนไปใช้ทางหลวงหมายเลข 11 (ลำปาง-เชียงใหม่) ผ่านไปจังหวัดลำพูนแล้วเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 118 (เชียงใหม่-เชียงราย) ผ่านดอยสะเก็ด แม่ขะจาน เวียงป่าเป้าเข้าสู่เชียงราย รวมระยะทาง 900 กิโลเมตร

โดยรถประจำทาง

มีรถโดยสารของ บริษัท ขนส่ง จำกัด ออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกุงเทพฯ (จตุจักร) ทุกวัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1490 เรียก บขส. หรือ www.transport.co.th

 

 4,474 total views,  2 views today

Comments

Share.

Leave A Reply

Exit mobile version