เมื่ออากาศหนาวเริ่มมาเยือน สิ่งแรกที่ทุกคนต่างคิดกัน คือ “ฉันต้องออกไปสัมผัสอากาศหนาวเย็นที่ใดสักที่ในปีนี้ให้ได้” แต่การจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหนสักแห่ง วัน เวลา สถานที่ ระยะทาง และความพร้อมของร่างกายและปัจจัย เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องคำนึงถึงเช่นกัน และเมื่อคุณสำรวจความพร้อมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็ออกเดินทางไปแตะขอบฟ้ากันได้เลยครับ

คู่หูพาเที่ยวฉบับนี้ เรามีจุดหมายปลายทางที่ บ้านห้วยห้อม ต.แม่ลาน้อย อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นสถานที่ปลูกกาแฟพันธุ์อราบิก้าส่งสตาร์บัคส์ กาแฟที่เป็นที่ชื่นชอบอันดับต้นๆ ในความหอมละมุนของกลิ่นและรสชาติ และเป็นแหล่งเลี้ยงแกะ เพื่อนำขนแกะมาทอเป็นเครื่องใช้ด้วยครับ

ก่อนจะถึงจุดหมายปลายทาง ผมมีจุดแวะพักเที่ยวถ่ายรูปสวยๆ มาแนะนำกันก่อนครับ 2 ที่ครับ อยู่บนถนนสายฮอด – แม่สะเรียง ซึ่งเป็นทางผ่านหากใครใช้เส้นทางมาจากลำปางหรือเชียงใหม่ รับรองความสวยสะท้านไม่ทำให้คุณผู้อ่านผิดหวังแน่นอน

ที่แรกที่มีความภูมิใจนำเสนอ คือ อุทยานแห่งชาติออบหลวง เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 68 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในเขต อำเภอจอมทอง อำเภอฮอด และอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 345,625 ไร่ หรือ 553 ตารางกิโลเมตร ลักษณะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงชัน สลับซับซ้อนติดต่อกันเป็นเทือกเขายาวในแนวเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาถนนธงชัยต่อจากดอยอินทนนท์ มีแม่น้ำสายใหญ่ คือ ลำน้ำแม่แจ่มกั้นกลาง อันเป็นเขตแบ่งระหว่างอำเภอจอมทองและอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ สภาพโดยทั่วไปเป็นป่าต้นน้ำลำธารชั้นหนึ่ง มีลำห้วยหลายสายไหลลงลำน้ำแม่แจ่มและลำน้ำแม่ปิงตอนล่าง ภูมิประเทศส่วนใหญ่มีที่ราบน้อยมาก ทางเข้าตั้งอยู่ทางด้านวามือ มีป้ายชื่ออุทยานบอกไว้อย่างชัดเจน ด้านในมีที่พักและลานกลางเต้นท์พร้อม จากจุดจอดรถเดินไปเพียง 150 เมตรก็จะพบช่องเขาขาดอวบหลวงอยู่เบื้องหน้าแล้ว แต่ทางเดินขึ้นจากป้ายไปยังสะพานด้านบนค่อนข้างแคบและสูงชัน อาจไม่เหมาะกับเด็กเล็กและผู้สูงวัย

ออบหลวงเป็นภาษาท้องถิ่นหมายถึง ช่องแคบหินขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นชื่อเฉพาะที่ใช้เรียกกันทั่วไป โดยช่องแคบออบหลวงนั้นเบื้องล่างมีสายน้ำแม่แจ่มหรือแม่น้ำสลักหิน ได้กัดเซาะแนวโขดหินน้อยใหญ่จนเกิดเป็นรูปร่างสวยงามแปลกตาน่าอัศจรรย์ยิ่ง จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือ ช่องเขาขาดบนผาสูงชันที่มีสะพานเล็กๆ เชื่อมต่อกันไว้ จุดนี้ถ้าใครไปห้ามพลาดถ่ายรูปเด็ดขาด สะพานแห่งนี้รับน้ำหนักได้ไม่เกินครั้งละ 5 คน เมื่อมองลงมาด้านล่างจะเห็นแนวลำน้ำแม่แจ่มไหลลัดเลาะโขดหินน้อยใหญ่มากมาย ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งในการชมทัศนียภาพของออบหลวงจากมุมบน แต่หากใครเป็นโรคกลัวความสูงก็ระวังเสียวกันด้วยนะครับ

เมื่อเดินข้ามสะพานด้านบนไปแล้วจะเป็นจุดที่มีการขุดค้นพบแหล่งโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ เช่น หลุมฝังศพของมนุษย์โบราณ โครงกระดูกของมนุษย์ในสมัยยุคสำริด มีอายุระหว่าง 2,500 – 3,500 ปี ก่อนคริสตกาล และภาพเขียนสีขาวที่บริเวณเพิงผาช้าง เป็นต้น แต่ใครที่ชื่นชอบความท้าทายสนุกสนานแบบมันส์ๆ ก็ต้องนี่ครับ กิจกรรมล่องแก่งเรือยางหรือเรือคายัค เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับความงดงามของลำน้ำแม่แจ่มอย่างใกล้ชิด สอบถามรายละเอียดโทร. 08-7715-4998

เมื่ออกจากอุทยานแห่งชาติออวบหลวงให้เลี้ยวขวา ขับรถมุ่งหน้าตรงไปทางแม่สะเรียง ประมาณกิโลเมตรที่ 36 สังเกตป่าสนทางด้านขวามือ คุณจะได้พบกับ สถานีทดลองปลูกพันธุ์ไม้บ่อแก้ว หรือสวนสนบ่อแก้ว ตั้งอยู่บนถนนเส้นทางสายฮอด – แม่สะเรียง เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจวัตถุดิบเพื่อทำเยื่อกระดาษ มีแปลงทดลองปลูกพืชจำพวกสน และยูคาลิปตัส บนเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ เมื่อขับรถมาถึงบริเวณนี้เราจะสังเกตเห็นต้นสนเป็นจำนวนมาก แต่ที่โดดเด่นและเป็นที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวก็คงจะเป็นแนวสนหน้าถนนทางเข้าฝั่งซ้ายมือ ที่มีการปลูกเรียงไว้เป็นแนวอย่างสวยงามทั้งสองข้างทาง มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจแวะมาถ่ายภาพสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกจำนวนมาก ซึ่งดูแล้วก็คล้ายๆ แนวต้นสนที่เกาะนามิของประเทศเกาหลีเหมือนกัน แต่ของเราก็สวยดูดีมีเสน่ห์ไปอีกแบบนึงครับ ใครที่ชื่นชอบหนังเกาหลีแต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยว ก็แวะมาที่นี่กันก่อนได้ อากาศดี เย็นสบาย หายใจได้อย่างเต็มปอดครับ

ทริปนี้ผมมาเที่ยว 3 วัน 2 คืน เมื่ออกจากสวนสนบ่อแก้วแล้วจึงมุ่งหน้าขับตรงเข้าที่พักที่ ตำบลแม่ลาน้อย อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอนเลยครับ ซึ่งใช้เวลาเดินทางเกือบ 3 ชั่วโมงจึงถึงที่พัก ตอนไปเที่ยวคอกบัวตองโรยหมดแล้วจึงไม่ได้แวะเก็บภาพสวยๆ มาฝากคุณผู้อ่านครับ ที่อำเภอแม่ลาน้อยมีที่พักหลายแห่ง แต่ผมเลือกพักที่ เฮินไต รีสอร์ท รีสอร์ท สวยเก๋ เรียบง่าย ผสมผสานระหว่างธรรมชาติและความสะดวกสบายได้อย่างลงตัว

เช้าวันแรกตื่นสายหน่อย ด้วยความเพลียที่เกิดจากการเดินทางไกลผ่าน มาหลายโค้งมากๆ จนไม่อยากนับ (ยิ้ม) วันนี้จะพาขึ้นไปชมโครงการหลวงแม่ลาน้อย และหมู่บ้านกระเหรี่ยงห้วยห้อม ทางขึ้นอยู่ฝั่งตรงข้ามไปรษณีย์แม่ลาน้อย สังเกตง่าย เมื่อเลี้ยวเข้าไปแล้วก็ขับไปเรื่อยๆ เกือบ 30 กิโลก็จะถึง โครงการหลวงแม่ลาน้อย อยู่ทางด้านขวามือ ที่นี่จะปลูกผักเมืองหนาวส่งให้ร้านอาหารหรูในเมืองกรุงปรุงเป็นผักสลัดปลอดสารพิษ เมื่อขับรถเข้าไปในหมู่บ้านเราก็จะพบเจอกับวิถีชีวิตที่น่ารัก เรียบง่าย ใจดีของคนกระเหรี่ยงบนยอดดอยสูง มีสัตว์เลี้ยงน่ารักวิ่งไปมาบนท้องถนน เรียกว่า “หมูดอย” เลี้ยงพอโตได้ที่ก็จะกลายเป็นอาหารของคนที่นี่ครับ ปกติคนส่วนใหญ่มักมาชมนาขั้นบันไดที่จะเริ่มปลูกกันในเดือนสิงหาคม และพอปลายเดือนกันยายนก็จะเริ่มออกรวงสีทองรอการเก็บเกี่ยวเพื่อนำมาเก็บไว้กินในครัวเรือนต่อไป วิถีชีวิตแบบนี้ผมว่าดีมากๆ เลยครับ รู้จักกิน รู้จักใช้ มีชีวิตที่พอเพียงอย่างแท้จริง

เมื่อออกจากโครงการหลวงแม่ลาน้อย ขับรถก็มุ่งหน้าต่อไปอีกประมาณ 7 กิโลเมตร ก็จะพบกับ หมู่บ้านกระเหรี่ยงห้วยห้อม เป็น 1 ใน 8 หมู่บ้านที่ได้รับการส่งเสริมจากศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย บนดอยแห่งนี้มีโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยว พร้อมพาชมวิถีชีวิตของชาวกระเหรี่ยง และละว้า ซึ่งปลูกพืชผักไว้กินเอง รวมทั้งการทำเกษตรกรรมต่างๆ เพื่อการดำรงชีวิตเท่านั้น ส่วนรายได้ของแต่ละครัวเรือนมาจากการปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้า เพื่อส่งขายให้กับร้านกาแฟดังอย่างสตาร์บัตส์ ปีละ 5,000 ตัน รวมถึงการทอผ้าขนแกะเพื่อจำหน่ายนักท่องเที่ยว เป็นอีกหนึ่งรายได้ที่ทำให้พวกเขาสามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างมีความสุขในพื้นที่ของตัวเอง แกะที่นี่เริ่มแรกมีเพียง 2 ตัว โดยได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถฯ ให้นำมาเลี้ยงเพื่อเป็นการสร้างอาชีพ ณ ปัจจุบันมีแกะรวมๆ กันแล้วเกือบ 40 ตัว เป็นการเลี้ยงแบบสหกรณ์รวมกัน ได้ผลผลิตมาก็นำมาแบ่งกันไปทอตามบ้านใครบ้านมัน ทอเสร็จก็นำมาส่งขาย แล้วนำรายได้มาแบ่งกันเป็นรอบๆ ครับ

วันนี้ผมได้น้องอังคณาพาเที่ยวชมวิถีชีวิต พร้อมเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เราฟัง คุณตาของน้องเคยได้เข้าเฝ้ารับเสด็จในหลวงด้วยครับ ซึ่งเป็นความปลาบปลื้มใจอย่างยิ่งในพระมหากรุณาธิคุณต่างๆ ที่พระองค์ทรงได้มอบให้กับชาวบ้านบนยอดดอยสูงแห่งนี้ โดยเราจะได้เห็นภาพประทับใจนี้แขวนไว้ที่ข้างฝาบ้านของน้อง แต่ตอนนี้คุณตาก็อายุเยอะมาก เลยคุยอะไรกับเราไม่ค่อยได้ และช่วงที่ไปก็อากาศค่อนข้างหนาว วิธีง่ายๆ ที่ทำให้ร่างกายอุ่นคือการไปนอนตากแดดนั่นเอง

ก่อนจะช่วยอุดหนุนผ้าขนแกะและกาแฟสดกลับไปฝากคนที่บ้านน้องอังคณาได้พาเราไปชมฝูงแกะแต่แกะออกไปกินหญ้าบริเวณทุ่งนาใกล้เคียงหมดแล้วคนเลี้ยงจึงแนะนำเราให้ซื้ออาหารไปให้กินเพื่อแกะจะได้มาให้เราถ่ายรูปได้ราคาถุงละ 20 บาททีแรกนึกว่าถุงเล็กๆเลยซื้อไป 2 ถุงกลัวแกะกินไม่พอแต่ที่ไหนได้ครับถุงนึงใหญ่เท่ากระสอบปุ๋ยทีนี้แกะก็ก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียวไม่มองหน้าเราเลย 5555 นี่แหละครับการเที่ยวแบบเชิงนิเวศน์ชมวิถีชีวิตที่แท้จริงได้พูดคุยกับคนที่ใช้ชีวิตจริงคือเสน่ห์ของการท่องเที่ยวแบบนี้คุยไปคุยมาถามโน่นถามนี่ก็เกือบเย็นเราจึงขอตัวกลับสนใจติดต่อที่พักหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร.  08-9555-3900, 08-9854-0914

เช้าวันที่สองก่อนออกเดินทางไปต่อที่จังหวัดเชียงราย เราตื่นกันตั้งแต่ตีห้า เพื่อขึ้นไปถ่ายรูปทะเลหมอกยามเช้าบนภูเขาลูกเดิม ประมาณกิโลเมตรที่ 7 จะเป็นพื้นที่ลาดเล็กน้อย มีมุมกว้างให้เราสามารถถ่ายรูปได้ อากาศหนาวเย็นมาก ลมพัดแรง รอ รอ รอ ไปจนพระอาทิตย์ขึ้นก็ไม่มีทะเลหมอกสักที แต่ก็ไม่ได้ผิดหวังอะไรมาก แค่อยากถ่ายรูปมาสร้างแรงบันดาลใจให้คุณผู้อ่านเท่านั้นครับ แต่ก็ได้ภาพภูเขาสีทองที่แสงแดดส่องมาแทน ซึ่งงดงามเช่นกันครับ

การได้ออกมาท่องเที่ยวสัมผัสกับวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ใช้ชีวิตที่ไม่ต้องฟันฝ่ารถติด ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำ มันช่างเป็นความสุขในวันพักผ่อนปีใหม่ปีนี้ของผมจริงๆ ครับ แล้วมาติดตามอ่านต่อในฉบับหน้า ผมจะพาไปสัมผัสอากาศหนาวกันที่จังหวัดเชียงรายครับ

การเดินทาง

•   รถยนต์ส่วนตัว

สามารถมาได้ 2 เส้นทาง จากจังหวัดเชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน

•    เส้นทางเชียงใหม่ – แม่ลาน้อย ใช้เส้นทางหางดงไปสู่ทางหลวง 108 สายฮอด – แม่สะเรียง – แม่ลาน้อย

•    เส้นทางแม่ฮ่องสอน – แม่ลาน้อย ใช้เส้นทางหลวง 108 สายแม่ฮ่องสอน – แม่สะเรียง

รถโดยสารสาธารณะ

มีรถออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) ทุกวัน เส้นทางกรุงเทพฯ – เชียงใหม่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.1490 เรียก บขส. หรือ www.transport.co.th

 

 44,000 total views,  2 views today

Comments

Share.

Leave A Reply

Exit mobile version