คู่หูเดินทาง
  • หน้าแรก
  • พาเที่ยว
  • พักแรม
  • พาชิม
  • คู่หูดูดวง
  • LifeStlyle
    • มุมสุขภาพ
    • รอบรู้รอบโลก
    • เคล็ดลับความงาม
  • ยานยนต์
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
  • ติดต่อเรา
  • DOWNLOAD
What's Hot

อีซูซุตอกย้ำคอนเซปต์  “MY NEW ID..MY NEW ISUZU D-MAX”ตัวตนใหม่ที่เป็นคุณ นำยนตรกรรมใหม่ล่าสุดร่วมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38”

ธันวาคม 1, 2021

อีซูซุ จับมือ Lazada เปิดออนไลน์สโตร์ ในรูปแบบ “ISUZU FLAGSHIP STORE” เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในยุคออนไลน์ พร้อมมอบเซอร์ไพรส์สุดยิ่งใหญ่ใน Lazada 11.11 Our Biggest One-Day Sale

พฤศจิกายน 6, 2021

อีซูซุได้รับรางวัลเกียรติยศ “No.1 Brand Thailand 2020-2021” แบรนด์ยอดนิยมอันดับ1 ประเภทรถปิกอัพ

ตุลาคม 1, 2021
Facebook Twitter Instagram
คู่หูเดินทาง
  • หน้าแรก
  • พาเที่ยว
  • พักแรม
  • พาชิม
  • คู่หูดูดวง
  • LifeStlyle
    • มุมสุขภาพ
    • รอบรู้รอบโลก
    • เคล็ดลับความงาม
  • ยานยนต์
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
  • ติดต่อเรา
  • DOWNLOAD
คู่หูเดินทาง
Home»พาเที่ยว»3 วัน 2 คืน กับ 1,219 โค้ง …เพื่อเธอ ‘ทีลอซู’
พาเที่ยว

3 วัน 2 คืน กับ 1,219 โค้ง …เพื่อเธอ ‘ทีลอซู’

คู่หูเดินทางBy คู่หูเดินทางกุมภาพันธ์ 20, 2019ไม่มีความเห็น2 Mins Read
Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
Share
Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

จังหวัดตากเป็นจังหวัดที่มีสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจมากมายหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ “น้ำตกที่ลอซู” ซึ่งถือว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความสูงถึง 120 เมตร และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของเอเซีย ตั้งอยู่ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก โดยระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงอำเภออุ้มผาง ประมาณ 668 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 – 12 ชั่วโมง แต่สำหรับเราแล้วใช้เวลาอย่างเต็มที่กับ 12 ชั่วโมงเต็ม เพราะแวะถ่ายรูปบ้าง ชมวิวข้างทางบ้าง สลับกับการพักสายตากับเส้นทางคดโค้งถึง 1,219 โค้ง ซึ่งเป็นเส้นทางระหว่างอำเภอพบพระถึงอำเภออุ้มผาง เพียงแค่ 167 กิโลฯ แต่ใช้เวลาขับรถ 4 ชั่วโมงกว่า! สมกับสโกลแกนของอำเภออุ้มผางที่ว่า “แผ่นดินดอยลอยฟ้า” จริงๆ
การเดินทางมาเที่ยวน้ำตกที่ลอซู จะให้สวยสุดๆ เค้าว่าต้องมาช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ถึงประมาณปลายๆ เดือนมกราคม หรือในช่วงฤดูหนาวนี่แหละ เพราะฝนเริ่มซา น้ำเริ่มใส และเมื่อปริมาณน้ำลดลงจะทำให้เราได้เห็นเกาะแก่งและสายน้ำตกที่พวงพุ่งอวดฟุ้งความสวยงามตระการตามากขึ้น สามารถปีนป่ายไปหาจุดโพสต์ท่าถ่ายรูป หรือจะนอนแช่น้ำตกให้เย็นฉ่ำสบายอุราก็ได้
เช้าวันแรก เราเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เวลาหกโมงเช้า ใช้เส้นทางวงแหวนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก เข้าสู่ถนนสายเอเชีย ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชร จนถึงจังหวัดตาก ระยะทางประมาณ 425 กิโลเมตร ก่อนที่จะถึงตัวเมืองจังหวัดตาก จะมีป้ายบอกทางไปยังอำเภอแม่สอด ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 12 ถนนแม่สอด-ตาก จากอำเภอแม่สอดจะผ่านอำเภอพบพระและไปสุดที่อำเภออุ้มผาง ระยะทางประมาณ 217 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงกว่าๆ แต่ช่วงที่ถือว่าโหดสุดๆ คือช่วงอำเภอพบพระต่อไปยังอำเภออุ้มผาง เพราะจะต้องขับผ่านทางคดโค้งขึ้นเขาลงเขาถึง 1,219 โค้ง เรียกว่ามึนและเมาทางไปตามๆ กัน แต่ความสวยงามก็อยู่ในบริเวณทางคดโค้งนี่แหละ ตอนเราไปมีฝนตกปรอยๆ เลยได้ภาพวิวหมอกสวยๆ ระหว่างทางมาฝากกัน ชาวบ้านที่นี่จะปลูกดอกดาวเรือง เค้าว่าเอาไปขายทำยา ขับไปแวะไปถึงที่พักที่เราจองไว้ก็ประมาณหกโมงเย็นพอดี เอาของลงรถเช็คอินเสร็จสรรพก็ออกมาทานข้าวเย็นกันเลย เพราะเหนื่อยล้า อยากอาบน้ำนอนมากๆ สองทุ่มทุกอย่างก็เงียบสนิท พรุ่งนี้ทางรีสอร์ตนัดทานอาหารเช้าตอนเจ็ดโมงครึ่ง (ไม่อยากจะบอกว่าขนาดนอนหลับบนเตียงแล้วยังรู้สึกเหมือนอยู่ตามทางคดโค้งถนนเลย…)
เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อทานอาหารเช้าเรียบร้อยรถก็มารับตอนแปดโมงครึ่ง จากนั้นไปส่งบริเวณทางลงเรือยางซึ่งอยู่ไม่ไกล นั่งรถไปไม่ถึง 5 นาที การเดินทางไปชมน้ำตกทีลอซูต้องนั่งเรือยางล่องเข้าไปประมาณ 30 กิโลฯ ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง ซึ่งฟังดูแล้วเหมือนว่าจะนาน แต่นั่งเพลินๆ ชมวิวสองข้างทางไป ไม่นานก็ถึง เพราะมีวิวสวยๆ ให้ชมเยอะ อาทิ ถ้ำผาโหว่ ที่มีช่องเล็กๆ เป็นปากถ้ำ ผาผึ้ง ซึ่งในสมัยก่อนจะมีผึ้งมาอาศัยในบริเวณนี้จำนวนมาก หรือบางถ้ำก็มีการขุดพบของโบราณในยุคสมัยก่อน วันที่เราไปน้ำจะเยอะและออกสีแดงนิดๆ เพราะเมื่อวานมีฝนตก และก่อนที่เราจะมาถึง 2 วันก็มีน้ำป่าพัดพาเศษขยะพลาสติกมาติดตามกิ่งไม้เยอะแยะไปหมด แต่ได้คุยกับพี่คนพายเรือบอกว่าอาทิตย์หน้าชาวบ้านจะมีการนัดกันมาช่วยเก็บขยะที่ติดตามกิ่งไม้ ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว เราได้ยินก็รู้สึกชื่นชมถึงการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติ คือในเมื่อชาวบ้านอาศัยแม่น้ำสายนี้ในการทำมาหากิน การดูแลสถานที่ให้สะอาดเรียบร้อยย่อมเป็นหน้าที่ของทุกคนในชุมชนเช่นกัน
แม่น้ำที่เรากำลังล่องเรืออยู่นี้มีชื่อว่า “แม่น้ำแม่กลอง” ไกด์บอกเราว่าที่นี่เป็นต้นน้ำของแม่น้ำแม่กลอง (แควใหญ่) ที่ไหลยาวไปถึงมหาชัยกันเลยทีเดียว ล่องมาได้สักพักจะเจอ “ทีลอจ่อหรือน้ำตกสายรุ้ง” บริเวณนี้จะมีน้ำตกเล็กๆ ไหลลงมาจากหน้าผา และเมื่อตกกระทบกับแสงอาทิตย์ก็จะเห็นรุ้งกินน้ำ ถ้าจะชมต้องมาไม่เกิน 11 โมงเช้า เพราะไม่เช่นนั้นเงาหน้าผาจะบังไม่มีแสงแดดส่องลงมาถ่ายรูปเก็บภาพเป็นที่ระลึกกันเรียบร้อยก็นั่งเรือล่องต่อไปอีกระยะหนึ่งก็จะเป็น “บ่อน้ำร้อน” จุดนี้มีบริการอาหารและน้ำดื่ม ทั้งน้ำสมุนไพร น้ำผึ้งผสมมะนาว มันเผา ไข่ปิ้ง และมีห้องน้ำบริการด้วย ใครใคร่อยากแช่เท้าก็ลงไปนั่งแช่ได้ในบริเวณที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ ใครอยากนั่งพักกินลมชมวิวเพลินๆ ก็ได้ตามสะดวก และถ้าพร้อมแล้วก็ลงเรือต่อเพื่อมุ่งหน้าไปยังจุดเทียบเรือบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางหน่วยพิทักษ์ผาเลือด
เมื่อมาถึงจุดเทียบเรือท่าแพผาเลือดเรียบร้อย เราก็มานั่งรถยนต์กันต่อกับระยะทาง 14 กิโลเมตร ที่ต้องใช้เวลาเดินทางถึง 1 ชั่วโมง ทางค่อนข้างสมบุกสมบัน เหมือนขับรถไปตามทางน้ำไหล (ไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้ามาในช่วงหน้าฝนทางจะหฤโหดขนาดไหน) ว่าจะหลับพักสายตาสักงีบสองงีบ (ในความคิด) แต่ในความเป็นจริงพูดเลย…ทางโยกเยกเขย่าตลอดทางไม่เป็นอันหลับอันนอน 55555

เมื่อลำไส้ปั่นป่วน แขนเกร็งเกาะรถมาได้สักพักใหญ่ก็ถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง น้ำตกทีลอซู เห็นแค่ป้ายก็อย่าเพิ่งดีใจไปเพราะต้องเดินเท้าต่ออีก 1.5 กิโลฯ (เค้าว่าของสวยของดีก็ต้องหาชมยากหน่อยนะ) จุดนี้จะเป็นจุดแวะทานข้าวกลางวัน ถ้าเราซื้อทัวร์มาก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะเค้าจัดอาหารหวานคาวมาพร้อม ทานข้าวอิ่มแล้ว ก็เตรียมเข้าห้องน้ำห้องท่าให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็ออกเดินเท้าต่ออีกประมาณครึ่งชั่วโมง หรือถ้าใครขับรถขึ้นมาเองก็ต้องมาจอดพักกางเต้นท์ในบริเวณนี้เช่นกัน ค่าธรรมเนียมผ่านเข้าเขตฯ อุ้มผาง บุคคลทั่วไป 20 บาท นักเรียน-นักศึกษา 10 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท
ทางเขตฯ อุ้มผางจะไม่อนุญาตให้นำขวดน้ำพลาสติกเข้าไป ถ้าตรวจพบก็จะให้นำออกไว้ข้างนอก ทางเดินไปยังน้ำตกทีลอซูจะเดินเลาะไปกับเส้นทางน้ำตก เป็นทางคอนกรีต เดินสบาย มีร่มไม้ใบบัง อากาศดี พร้อมมีจุดพักชมวิวเป็นระยะ เมื่อเดินเข้าไปใกล้จะได้ยินเสียงน้ำตกดังชัดขึ้นเรื่อยๆ … และที่สุดเราก็ถึง “น้ำตกทีลอซู” น้ำตกที่สูงที่สุดในประเทศไทย ความยิ่งใหญ่อลังการสมคำร่ำลือ แต่เราไม่ได้ลงเล่นน้ำ เพราะอย่างที่บอกไปว่าฝนตก น้ำเยอะ จึงทำให้เกิดอันตรายได้ เราก็ได้แต่แชะๆๆ เก็บภาพสวยๆ มาฝากกัน
เมื่อถ่ายรูปจนหนำใจก็ได้เวลากลับ แต่ขากลับดูเหมือนว่าจะไม่ลำบากมากเพราะจะมีรถยนต์มารับในบริเวณเขตฯ อุ้มผาง หรือตรงจุดที่เราลงรถเพื่อทานอาหารกลางวันนั่นแหละ
จากจุดที่ขึ้นรถเพื่อนั่งกลับออกไปยังอำเภออุ้มผาง ระยะทางเพียง 26 กิโลฯ แต่ใช้เวลานั่งโยกเยกอีกเกือบ 2 ชั่วโมง เราว่าโหดกว่าขามาเยอะเลย เพราะเป็นการนั่งเขย่าอยู่บนรถถึง 2 ชั่วโมงโดยไม่ได้มีการแวะพักให้หายใยหายคอกัน…
น้องไกด์เห็นว่าพอมีเวลาเหลือจึงพาเราแวะไปชมโบสถ์ไม้สักทั้งหลังที่วัดหนองหลวง ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ได้ขยับขยายลำไส้หลังจากผ่านถนนดาวอังคารบนโลกมนุษย์มา ไหว้พระทำบุญเรียบร้อยก็กลับ (ช่วงนี้ถนนดีแล้ว) ถึงที่พักประมาณห้าโมงเย็น อาบน้ำพักผ่อนร่างเรียบร้อยก็ออกมาทานมื้อเย็นแบบจัดเต็มสุดๆ

เช้าวันสุดท้าย ทางรีสอร์ตนัดรถมารับเราตอนตี 5 เพื่อพาไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่ “ดอยหัวหมด” เป็นยอดเขาหัวโล้นที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้น มีเพียงยอดหญ้าและดอกเทียนผีเสื้อขึ้นตามแนวหน้าผาเท่านั้น ดอยหัวหมดจะอยู่ห่างจากตัวเมืองอุ้มผางมาตามเส้นทางบ้านสบห้วยแม่สะมุ้งประมาณ 10 กิโลเมตร จากจุดจอดรถเดินเท้าขึ้นไปชมวิวบนยอดดอยอีกประมาณ 150 เมตร ภูเขาบริเวณนี้มีหลายดอย แล้วแต่ทางรีสอร์ตจะเลือกพาเราไปขึ้นดอยไหน แต่วันนี้เราไปขึ้นดอยที่เค้าตั้งชื่อเองว่า “ดอยหัวหมดดอกเทียนผีเสื้อ” (ในช่วงฤดูฝนจะมีดอกเทียนผีเสื้อสีชมพูสดขึ้นเป็นจำนวนมากในบริเวณนี้) วิวตรงนี้เรียกว่าเป็นพาโนราม่า 360 องศากันเลยทีเดียว สวยงามน่าประทับใจมากๆ
อิ่มวิวแล้วเราก็ลงมาอิ่มท้องและเตรียมตัวกลับบ้านแล้ว … ขากลับก็พยายามเตรียมใจว่าต้องผ่านอีก 1,219 โค้ง!!! มันก็จะมึนๆ อีกหน่อยนะ
เมื่อผ่านจุดถนนที่เรียกมามึนสุดๆ มาแล้ว ขับผ่านอำเภอพบพระ มุ่งหน้ามาอำเภอแม่สอดจะเห็นน้ำตกอยู่ด้านขวามือ (ตอนขามาเราเห็นว่ามีน้ำตกหนึ่งอยู่ข้างทางแถวๆ บริเวณนี้แต่ไม่ได้แวะ เพราะกลัวขึ้นไปถึงอำเภออุ้มผางมืด ขากลับเลยต้องจัดสักหน่อย) น้ำตกนี้มีชื่อว่า “น้ำตกธารารักษ์” บริเวณหมู่บ้านเจดีย์โค๊ะ เป็นหนึ่งในหมู่บ้านนวัตวิถีซึ่งมีความหลากหลายของชาติพันธุ์ บริเวณน้ำตกธารารักษ์ เป็นน้ำตกที่เกิดจากน้ำผุดจากใต้ดินแล้วไหลลงผ่านหน้าผาสูงทำให้เกิดความสวยงามโดดเด่น สามารถลงเล่นน้ำได้ มีบริการร้านอาหารและเครื่องดื่มในบริเวณนี้ ถือเป็นจุดพักผ่อนหย่อยใจของชาวบ้านใกล้เคียง

ความสุขของการเดินทางมันไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทางเท่านั้น แต่ความสุขระหว่างเส้นทาง รวมถึงเพื่อนร่วมทางก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน

การเดินทาง
• รถโดยสารสาธารณะ
บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. มีรถโดยสารออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเพทฯ (จตุจักร) เส้นทางกรุงเทพฯ – แม่สอด ทุกวัน สอบถามรายละเอียดและตารางเดินรถได้ที่ Call Center 1490 เรียก บขส. หรือที่ www.transport.co.th เมื่อเดินทางมาถึงที่สถานีฯ แม่สอดแล้ว ให้ต่อวินรถสองแถวเส้นทางแม่สอด-อุ้มผาง ค่าโดยสารคนละ 150 บาท เพื่อต่อรถไปยังอำเภออุ้มผาง

• รถยนต์ส่วนตัว
ไปตามทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชร จนถึงจังหวัดตาก ระยะทางประมาณ 425 กิโลเมตร ก่อนถึงตัวเมืองตาก 7 กิโลเมตร แยกซ้ายมือสู่เส้นทางหลวงหมายเลข 1090 (แม่สอดอุ้มผาง) ระยะทาง 164 กิโลเมตร รวมระยะทางจากกรุงเทพฯ-อุ้มผาง ประมาณ 668 กิโลเมตร
ระยะเวลาเดินทาง จากกรุงเทพฯ – อำเภอแม่สอด ประมาณ 7 ชั่วโมง และจากอำเภอแม่สอดถึงอำเภออุ้มผาง ประมาณ 4 – 5 ชั่วโมง เส้นทางมีความคดเคี้ยวต้องใช้ความระมัดระวังในการขับรถ และควรตรวจเช็กความพร้อมของรถก่อนออกเดินทาง

 13,011 total views,  2 views today

Comments

Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
คู่หูเดินทาง

Related Posts

อีซูซุตอกย้ำคอนเซปต์  “MY NEW ID..MY NEW ISUZU D-MAX”ตัวตนใหม่ที่เป็นคุณ นำยนตรกรรมใหม่ล่าสุดร่วมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38”

ธันวาคม 1, 2021

เที่ยวชายหาดอำเภอบางสะพานน้อย “ลึกแต่ไม่ลับ”

กุมภาพันธ์ 17, 2021

ชมทะเลหมอกสุดอลังที่ “ดอยตาปัง” จ.ชุมพร

กุมภาพันธ์ 17, 2021

Comments are closed.

Don't Miss
ข่าวประชาสัมพันธ์

อีซูซุตอกย้ำคอนเซปต์  “MY NEW ID..MY NEW ISUZU D-MAX”ตัวตนใหม่ที่เป็นคุณ นำยนตรกรรมใหม่ล่าสุดร่วมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38”

By คู่หูเดินทางธันวาคม 1, 20210

อีซูซุร่วมงาน “…

อีซูซุ จับมือ Lazada เปิดออนไลน์สโตร์ ในรูปแบบ “ISUZU FLAGSHIP STORE” เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในยุคออนไลน์ พร้อมมอบเซอร์ไพรส์สุดยิ่งใหญ่ใน Lazada 11.11 Our Biggest One-Day Sale

พฤศจิกายน 6, 2021

อีซูซุได้รับรางวัลเกียรติยศ “No.1 Brand Thailand 2020-2021” แบรนด์ยอดนิยมอันดับ1 ประเภทรถปิกอัพ

ตุลาคม 1, 2021

“โอมาคาเสะ คาร์” โดยกลุ่มตรีเพชร เดินหน้าผุดสาขาใหม่ พร้อมฉลอง 1,000 คัน

ตุลาคม 1, 2021
Don't Miss

อีซูซุตอกย้ำคอนเซปต์  “MY NEW ID..MY NEW ISUZU D-MAX”ตัวตนใหม่ที่เป็นคุณ นำยนตรกรรมใหม่ล่าสุดร่วมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38”

อีซูซุ จับมือ Lazada เปิดออนไลน์สโตร์ ในรูปแบบ “ISUZU FLAGSHIP STORE” เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในยุคออนไลน์ พร้อมมอบเซอร์ไพรส์สุดยิ่งใหญ่ใน Lazada 11.11 Our Biggest One-Day Sale

อีซูซุได้รับรางวัลเกียรติยศ “No.1 Brand Thailand 2020-2021” แบรนด์ยอดนิยมอันดับ1 ประเภทรถปิกอัพ

“โอมาคาเสะ คาร์” โดยกลุ่มตรีเพชร เดินหน้าผุดสาขาใหม่ พร้อมฉลอง 1,000 คัน

About

คู่หูเดินทาง

ภาพและบทความมีลิขสิทธิ์ หากต้องการนำไปเผยแพร่
หรือทำซ้ำ ต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร
จาก บริษัท เอ็ม เจ มีเดีย จำกัด ก่อนทุกครั้ง

โทรศัพท์ : 0 2171 1535
โทรสาร : 0 2171 1536
ติดต่อโฆษณา : 09-2265-2442
e-mail : mjmedia2008@yahoo.com

Find us on Facebook

อีซูซุตอกย้ำคอนเซปต์  “MY NEW ID..MY NEW ISUZU D-MAX”ตัวตนใหม่ที่เป็นคุณ นำยนตรกรรมใหม่ล่าสุดร่วมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38”

ธันวาคม 1, 2021

อีซูซุ จับมือ Lazada เปิดออนไลน์สโตร์ ในรูปแบบ “ISUZU FLAGSHIP STORE” เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในยุคออนไลน์ พร้อมมอบเซอร์ไพรส์สุดยิ่งใหญ่ใน Lazada 11.11 Our Biggest One-Day Sale

พฤศจิกายน 6, 2021

อีซูซุได้รับรางวัลเกียรติยศ “No.1 Brand Thailand 2020-2021” แบรนด์ยอดนิยมอันดับ1 ประเภทรถปิกอัพ

ตุลาคม 1, 2021

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

Go to mobile version