คู่หูเดินทาง
  • หน้าแรก
  • พาเที่ยว
  • พักแรม
  • พาชิม
  • คู่หูดูดวง
  • LifeStlyle
    • มุมสุขภาพ
    • รอบรู้รอบโลก
    • เคล็ดลับความงาม
  • ยานยนต์
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
  • ติดต่อเรา
  • DOWNLOAD
What's Hot

อีซูซุตอกย้ำคอนเซปต์  “MY NEW ID..MY NEW ISUZU D-MAX”ตัวตนใหม่ที่เป็นคุณ นำยนตรกรรมใหม่ล่าสุดร่วมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38”

ธันวาคม 1, 2021

อีซูซุ จับมือ Lazada เปิดออนไลน์สโตร์ ในรูปแบบ “ISUZU FLAGSHIP STORE” เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในยุคออนไลน์ พร้อมมอบเซอร์ไพรส์สุดยิ่งใหญ่ใน Lazada 11.11 Our Biggest One-Day Sale

พฤศจิกายน 6, 2021

อีซูซุได้รับรางวัลเกียรติยศ “No.1 Brand Thailand 2020-2021” แบรนด์ยอดนิยมอันดับ1 ประเภทรถปิกอัพ

ตุลาคม 1, 2021
Facebook Twitter Instagram
คู่หูเดินทาง
  • หน้าแรก
  • พาเที่ยว
  • พักแรม
  • พาชิม
  • คู่หูดูดวง
  • LifeStlyle
    • มุมสุขภาพ
    • รอบรู้รอบโลก
    • เคล็ดลับความงาม
  • ยานยนต์
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
  • ติดต่อเรา
  • DOWNLOAD
คู่หูเดินทาง
Home»พาเที่ยว»วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ (วัดพระบาทปู่ผาแดง) ความมหัศจรรย์แห่งแรงศรัทธา
พาเที่ยว

วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ (วัดพระบาทปู่ผาแดง) ความมหัศจรรย์แห่งแรงศรัทธา

คู่หูเดินทางBy คู่หูเดินทางสิงหาคม 18, 2017Updated:สิงหาคม 21, 2017ไม่มีความเห็น2 Mins Read
Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
Share
Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ (วัดพระบาทปู่ผาแดง) หรืออีกชื่อที่ชาวบ้านนิยมเรียกกัน คือ “ดอยปู่ยักษ์ (ดอยพระบาทปู่ผาแดง)” ตั้งอยู่ที่ อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ในพื้นที่ของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันซีน ไทยแลนด์ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ด้วยความมหัศจรรย์จากการไปตั้งอยู่ของเจดีย์กว่า 10 องค์บนยอดเขาสูงเสียดฟ้า และความงดงามของทัศนียภาพโดยรอบ

“ดอยปู่ยักษ์” หรือ “ดอยพระบาทปู่ผาแดง” ในสมัยก่อนชาวบ้านได้มีการค้นพบรอยจารึกพระพุทธบาทขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าทำให้คนที่ทราบข่าวละผู้ที่มีจิตศรัทธาเดินทางขึ้นมากราบไหว้สักการะและขอพรแต่การเดินทางขึ้นมาข้างบนนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบากมากเพราะยังไม่มีถนนหนทางขึ้นมาดังเช่นปัจจุบันต้องใช้วิธีการเดินเท้าผ่านป่าทึบสูงชันและครั้งเมื่อพระเทพวิสุทธิญาณ (หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล) เจ้าอาวาสวัดอนาลโยทิพยาราม จังหวัดพะเยา ซึ่งท่านเป็นชาวอำเภอเกาะคา จังหวัดลำปางโดยกำเนิด ได้เดินทางมากราบสักการะรอยพระพุทธบาทที่ประดิษฐานอยู่ ได้เกิดพลังแห่งศรัทธาอยากจะจัดสร้างวัดขึ้นมาในบริเวณนี้ และประกอบกับในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระราชสมภพครบ 200 ปี เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2547 ทางคณะสงฆ์จึงมีมติให้สร้างวัดเฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่าน เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อปวงชนชาวไทย จึงได้สร้าง “วัดพระบาทปู่ผาแดง” หรือ “วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์” ที่ตำบลวิเชตนคร อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปางนี้ขึ้นมา

ภายในบริเวณวัดจะแบ่งออกเป็น 3 ชั้น คือ ชั้นแรก จะเป็นที่ตั้งของตัววัดพระบาทปู่ผาแดง หรือที่บางคนเรียกกันง่ายๆ ว่า “วัดล่าง” บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของอุโบสถและเจดีย์ ภายในอุโบสถจะมีพระพุทธรูปประธาน จำลองมาจากพระนิรันตราย ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปประจำพระองค์ของรัชกาลที่ 4 องค์หนึ่ง ตัวอุโบสถเป็นลักษณะศิลปกรรมล้านนา มีความงดงามอ่อนช้อย หลังคาซ้อนสองชั้นลดหลั่นงามตา

สำหรับ ชั้นที่ 2 เรียกว่า “ภูผาหมอก” หรือ “ดอยจิหมอก” (จิหมอก เป็นภาษาท้องถิ่น หมายถึง จับหมอก) ห่างจากชั้นแรกประมาณ 3 กิโลเมตร แต่ทางมีความลาดชันมาก อาจเกิดอันตรายหากนักท่องเที่ยวขับรถขึ้นไปเอง ทางวัดจึงจัดให้มีรถสองแถวบริการรับ-ส่ง สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นไปด้านบน โดยให้ชาวบ้านที่มีความชำนาญในเส้นทางเป็นคนขับ เสียค่าใช้จ่ายท่านละ 100 บาท

ในบริเวณชั้น 2 นี้ จะเป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาท เมื่อลงมาจากรถจะอยู่ทางด้านซ้ายมือของลานจอดรถ ประมาณ 300 เมตร รอยพระพุทธบาทแห่งนี้เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวแจ้ห่มและชาวลำปางมาก ในทุกๆ ปี วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 จะมีการจัดงานนมัสการรอยพระพุทธบาทขึ้นเป็นประจำ บริเวณนี้จะมีศาลาและจุดชมวิว หากเดินทางมากับญาติผู้ใหญ่ที่สุขภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวย สามารถให้นั่งรอพักในบริเวณนี้ได้

เมื่อกราบสักการะรอยพระพุทธบาทในบริเวณนี้เรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาออกแรงเดินมุ่งหน้าสู่ยอดเขาอีกประมาณ 1 กิโลเมตรซึ่งชั้นนี้คือชั้นสูงสุดชั้นที่ 3 ชื่อชั้นวิมารลอยฟ้า (ควรพกน้ำดื่มติดตัวไปด้วย เพื่อลดความกระหายระหว่างทาง) ช่วงแรกจะเป็นถนนปูนลาดชันนิดหน่อย เดินไปคุยไปก็จะถึงทางขึ้นบันไดอยู่ด้านซ้ายมือ มีป้ายบทบริกรรม “พุทโธ” ให้ท่องระหว่างทางเวลาเดินขึ้น เพื่อจะได้ลืมความเหนื่อยล้าและเป็นพลังใจว่าอีกไม่ไกลก็ถึงแล้ว…

ทางขึ้นจะเป็นบันไดเหล็กแข็งแรงมีราวให้เกาะจับระหว่างเดินขึ้นเป็นช่วงๆทางค่อนข้างสูงชันแต่ถ้าใครไม่มั่นใจก่อนทางขึ้นจะมีไม้เท้าไว้สำหรับค้ำยันเวลาเดินให้บริการฟรี

เดินบ้างหยุดบ้างตามกำลังขาของแต่ละคน ถึงก่อนถึงหลังไม่มีใครว่า เพียงพลังศรัทธาที่จะพาเราก้าวย่างขึ้นไปเท่านั้น ระหว่างทางจะมีจุดแวะพักและจุดถ่ายรูปพร้อมชมวิวเป็นระยะ ให้คุณได้พักเติมพลังสูดลมชมบรรยากาศก่อนที่จะมุ่งหน้าขึ้นสู่ยอดเขาต่อไป…

เดิน…พัก…เดิน…พัก…เดิน…ในที่สุดเราก็ถึงด้านบนสุดแล้ว ใช้เวลาในการเดินประมาณครึ่งชั่วโมงนิดๆ พอถึงปุ๊ปก็หายเหนื่อยปั๊ป เพราะภาพเบื้องหน้าช่างสวยงดงามคุ้มค่ากับการออกแรงเหลือเกิน ชั้นนี้จะไม่มีพระภิกษุสงฆ์จำวัดอยู่ จะมีแต่เพียงเจ้าหน้าที่คอยดูแลความเรียบร้อยในช่วงเช้าถึงเย็นเท่านั้น

ทางด้านขวาจะเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระธาตุเจดีย์สีทอง สามารถขึ้นไปกราบสักการะได้ ซึ่งต้องเดินขึ้นบันไดเล็กๆ ชันๆ ไปอีกนิดหนึ่ง และวิวด้านบนนี้ก็งดงามมาก มองได้รอบแบบ 360 องศา เห็นทั้งทิวทัศน์ของอำเภอแจ้ห่ม และวัดเฉลิมพระเกียรติฯ จากด้านบน

หากเดินลัดเลาะขอบเขามาทางด้านซ้ายจะไปมุ่งสู่ศาลาสวดมนต์ ซึ่งจะมีพระขึ้นมาสวดมนต์ในทุกวันแรม 8 ค่ำ จุดนี้ถือเป็นจุดชมวิวองค์เจดีย์น้อยใหญ่ที่ตั้งเรียงลายบนยอดเขาหินปูนที่สวยงามตามภาพที่เห็นในสื่อต่างๆ (แต่มุมที่สวยนั้นต้องมองจากบนฟ้าลงมาถึงจะเห็นองค์เจดีย์ครบ)

บนยอดเขาจะมีเจดีย์แก้ว 5 พระองค์ ที่ชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างถวายพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ได้แก่ พระกะกุสันโธ พระโกนาคมโน พระกัสสโป พระโคตโม (พระเจ้าองค์ปัจจุบัน) และพระศรีอริยเมตไตรโย ส่วนองค์พระเจดีย์สีขาว ด้านในจะบรรจุอัฐิของพระเกจิอาจารย์สำคัญๆ เรียงรายอยู่ รวมถึงพระเกศาของสมเด็จพระสังฆราชองค์ก่อน ครั้งเมื่อยังมีชีวิตอยู่

การก่อสร้างเจดีย์บนยอดเขาพระบาทนั้นต้องอาศัยแรงแห่งศรัทธาของชาวบ้านเป็นอย่างมากเพราะใช้เวลาสร้างกว่าสิบปีแค่เฉพาะเราเดินขึ้นตัวเปล่าๆยังเหนื่อยหอบไม่ใช่ย่อยแล้วนี้ต้องขนอุปกรณ์และวัสดุก่อสร้างต่างๆขึ้นไปด้วยคงยากลำบากกว่าเราเยอะ

มาที่นี่แล้วนอกจากความงดงามของสถานที่และวิวธรรมชาติต่างๆแล้วเรายังได้เห็นถึงความอดทนมานะพากเพียรของเราเช่นกันหนทางเดินแม้จะลาดชันอยู่สูงสักเพียงใดแต่ด้วยใจที่มุ่งมั่นแล้วก็ไม่เกินความสามารของเราได้เลย

ไม่ไกลกันมากนักหากนักท่องเที่ยวพอมีเวลา เราขอแนะนำให้ไปนักพักผ่อนแช่น้ำร้อนผ่อนคลายความเหนื่อยล้ากันที่ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ยังคงสภาพป่าไว้ได้อย่างสมบูรณ์ มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี พื้นที่กว้างใหญ่ครอบคลุม 4 อำเภอของจังหวัดลำปาง ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอแจ้ห่ม อำเภอเมืองปาน และอำเภอวังเหนือ เนื้อที่ประมาณ 768 ตารางกิโลเมตร ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2531

บริเวณอุทยานฯ จะมีบ่อน้ำร้อนแจ้ซ้อน เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีสภาพการเกิดทางธรณีวิทยา มีกลิ่นกำมะถันอ่อนๆ จำนวน 9 บ่อ ไหลเลาะตามโขดหินน้อยใหญ่ที่อยู่กระจายในพื้นที่ อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 73 องศาเซลเซียส สามารถต้มไข่ได้ใช้เวลา 20 นาที (ลักษณะจะเหมือนไข่ลวก) ถ้ามาในช่วงเช้าจะเห็นไอน้ำลอยฟุ้งเด่นชัด มี “แอ่งน้ำอุ่น” ตั้งอยู่ติดกับบ่อน้ำพุร้อน เป็นแอ่งน้ำที่เกิดจากการไหลมาบรรจบกันของน้ำพุร้อน และน้ำเย็นที่มาจากน้ำตกแจ้ซ้อน ทำให้เกิดเป็นน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิเหมาะแก่การแช่อาบ ห้องอาบน้ำแร่ มีทั้งห้องอาบแช่ สำหรับ 3-4 คน ห้องรวมแบบตักอาบ และบ่อสำหรับแช่อาบกลางแจ้ง น้ำแร่ที่ใช้ต่อท่อโดยตรงมาจากบ่อน้ำพุร้อน มีอุณหภูมิน้ำแร่ประมาณ 39-42 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถใช้แช่อาบได้

ประโยชน์ของการอาบน้ำแร่ คือ ช่วยบำบัดความเมื่อยล้าของร่างกาย ช่วยให้ระบบไหลเวียนของโลหิตดีขึ้น ช่วยรักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ เช่น กลาก เกลื้อน ผื่นคัน และยังช่วยบรรเทาอาการของโรคเกี่ยวกับกระดูก แต่น้ำแร่จากที่นี่ไม่สามารถใช้ดื่มได้ เพราะมีแร่ธาตุบางชนิดสูงกว่ามาตรฐาน

สามารถพักค้างแรมแบบบ้านพักเป็นหลัง หรือกางเต้นท์นอนก็ได้ มีร้านอาหารสวัสดิการบริการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุทยานแห่งชาติฯ โทร. 0 2562 0760-2 อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน โทร. 0 5438 0000, 08 9851 3355 หรือ www.dnp.go.th

การเดินทาง

♦ การเดินทางไปวัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ (วัดพระบาทปู่ผาแดง) เริ่มจากตัวเมืองลำปางใช้ทางหลวงหมายเลข 1035 ประมาณ 50 กิโลเมตร ไปอำเภอแจ้ห่ม จากตัวเมืองแจ้ห่มไปประมาณ 1 กิโลเมตร มีทางแยกด้านซ้ายมือ ให้สังเกตซุ้มประตูเข้าหมู่บ้านใหม่เหล่ายาว ให้เลี้ยวเข้าไปประมาณ 200 เมตร ก็จะเจอทางไปวัดเฉลิมพระเกียรติฯ อยู่บริเวณแยกซ้ายมือ ประมาณ 5 กิโลเมตรถึงวัด

♦ การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จากตัวเมืองลำปางไปตามทางหลวงหมายเลข 1035 เส้นลำปาง – แจ้ห่ม ไปจนถึงประมาณกิโลเมตรที่ 58 เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1287 ซึ่งเป็นทางเข้าไปอำเภอเมืองปาน แล้วเลี้ยวขวาที่สามแยก ใช้ทางหลวงหมายเลข 1252 เส้นข่วงกอม – ปางแฟน ประมาณ 11 กิโลเมตรแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าอุทยานฯ ตามถนน รพช. อีก 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ

♦ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ (เชียงใหม่, ลำพูน, ลำปาง) โทร. 0 5324 8604, 0 5324 8607, 0 5330 2500

 13,166 total views,  2 views today

Comments

Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
คู่หูเดินทาง

Related Posts

อีซูซุตอกย้ำคอนเซปต์  “MY NEW ID..MY NEW ISUZU D-MAX”ตัวตนใหม่ที่เป็นคุณ นำยนตรกรรมใหม่ล่าสุดร่วมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38”

ธันวาคม 1, 2021

เที่ยวชายหาดอำเภอบางสะพานน้อย “ลึกแต่ไม่ลับ”

กุมภาพันธ์ 17, 2021

ชมทะเลหมอกสุดอลังที่ “ดอยตาปัง” จ.ชุมพร

กุมภาพันธ์ 17, 2021

Comments are closed.

Don't Miss
ข่าวประชาสัมพันธ์

อีซูซุตอกย้ำคอนเซปต์  “MY NEW ID..MY NEW ISUZU D-MAX”ตัวตนใหม่ที่เป็นคุณ นำยนตรกรรมใหม่ล่าสุดร่วมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38”

By คู่หูเดินทางธันวาคม 1, 20210

อีซูซุร่วมงาน “…

อีซูซุ จับมือ Lazada เปิดออนไลน์สโตร์ ในรูปแบบ “ISUZU FLAGSHIP STORE” เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในยุคออนไลน์ พร้อมมอบเซอร์ไพรส์สุดยิ่งใหญ่ใน Lazada 11.11 Our Biggest One-Day Sale

พฤศจิกายน 6, 2021

อีซูซุได้รับรางวัลเกียรติยศ “No.1 Brand Thailand 2020-2021” แบรนด์ยอดนิยมอันดับ1 ประเภทรถปิกอัพ

ตุลาคม 1, 2021

“โอมาคาเสะ คาร์” โดยกลุ่มตรีเพชร เดินหน้าผุดสาขาใหม่ พร้อมฉลอง 1,000 คัน

ตุลาคม 1, 2021
Don't Miss

อีซูซุตอกย้ำคอนเซปต์  “MY NEW ID..MY NEW ISUZU D-MAX”ตัวตนใหม่ที่เป็นคุณ นำยนตรกรรมใหม่ล่าสุดร่วมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38”

อีซูซุ จับมือ Lazada เปิดออนไลน์สโตร์ ในรูปแบบ “ISUZU FLAGSHIP STORE” เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในยุคออนไลน์ พร้อมมอบเซอร์ไพรส์สุดยิ่งใหญ่ใน Lazada 11.11 Our Biggest One-Day Sale

อีซูซุได้รับรางวัลเกียรติยศ “No.1 Brand Thailand 2020-2021” แบรนด์ยอดนิยมอันดับ1 ประเภทรถปิกอัพ

“โอมาคาเสะ คาร์” โดยกลุ่มตรีเพชร เดินหน้าผุดสาขาใหม่ พร้อมฉลอง 1,000 คัน

About

คู่หูเดินทาง

ภาพและบทความมีลิขสิทธิ์ หากต้องการนำไปเผยแพร่
หรือทำซ้ำ ต้องได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษร
จาก บริษัท เอ็ม เจ มีเดีย จำกัด ก่อนทุกครั้ง

โทรศัพท์ : 0 2171 1535
โทรสาร : 0 2171 1536
ติดต่อโฆษณา : 09-2265-2442
e-mail : mjmedia2008@yahoo.com

Find us on Facebook

อีซูซุตอกย้ำคอนเซปต์  “MY NEW ID..MY NEW ISUZU D-MAX”ตัวตนใหม่ที่เป็นคุณ นำยนตรกรรมใหม่ล่าสุดร่วมงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38”

ธันวาคม 1, 2021

อีซูซุ จับมือ Lazada เปิดออนไลน์สโตร์ ในรูปแบบ “ISUZU FLAGSHIP STORE” เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในยุคออนไลน์ พร้อมมอบเซอร์ไพรส์สุดยิ่งใหญ่ใน Lazada 11.11 Our Biggest One-Day Sale

พฤศจิกายน 6, 2021

อีซูซุได้รับรางวัลเกียรติยศ “No.1 Brand Thailand 2020-2021” แบรนด์ยอดนิยมอันดับ1 ประเภทรถปิกอัพ

ตุลาคม 1, 2021

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

Go to mobile version