มุมสุขภาพ
 
 

+ จิบชาชื่นใจเติมความกระปรี้กระเปร่า

 
 

ในวันที่อากาศอึมครึมเหงาหงอยและท้องฟ้าเป็นสีเทา อย่าปล่อยให้จิตใจหดหู่ตามสภาพอากาศ ชาสมุนไพรที่ไม่ธรรมดานี้จะทำให้คุณรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมา ลองผสมชาสูตรนี้ดูสิ เติมใบแปะก๊วย 1 ช้อนชา และผงโสม ¼ ช้อนชา ลงในน้ำเดือด 1 ถ้วย ทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นจึงนำไปแช่เย็น และเสิร์ฟคู่กับมะนาวสไลซ์บางๆ รับรองว่าคุณจะรู้สึกสดชื่นและมีพลังมากขึ้น

 
 

+นวดกระตุ้นฝ่าเท้า...แสนผ่อนคลาย

 
 

นี่คือการผสมผสานการนวด กดจุด และอโรมาเธอราพีเข้าด้วยกันเพื่อช่วยให้ร่างกายของคุณรู้สึกผ่อนคลายขึ้น ทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง  

  • ยกเท้าซ้ายขึ้นมาพาดบนเข่าขวา และใช้นิ้วโป้งสองข้างเริ่มนวดจากกลางฝ่าเท้า ก่อนจะไล่ไปยังส้นเท้า และขึ้นมาถึงข้อเท้า
  • กดรอยบุ๋มที่อยู่ใต้กระดูกข้อเท้าทางด้านหน้าค้างไว้ครู่หนึ่งเพื่อคลายความตึงเครียด
  • จากนั้นจึงลูบหลังเท้าโดยเริ่มจากข้อเท้าไปจนถึงปลายนิ้ว และดึงนิ้วแต่ละนิ้วเบาๆ ไล่จากโคนไปถึงปลาย ก่อนจะจบลงด้วยการประสานนิ้วมือของคุณเข้ากับนิ้วเท้า และหมุนข้อนิ้วเบาๆ เป็นวงกลม ทำซ้ำกับเท้าอีกข้าง

จะใช้น้ำมันธรรมดา เช่น น้ำมันอัลมอนด์ หรือโอลีฟออยล์ นวดก็ได้ แต่การหยดน้ำมันหอมระเหย เช่น เปปเปอร์มินต์ มะนาว หรือยูคาลิปตัสเพิ่มสักนิดหน่อย จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นยิ่งขึ้น

 


 
 

+จะเลือกอะไรดี...ผลไม้แห้งหรือผลไม้สด

 
 

 

คุณสาวๆ อาจรู้สึกประหลาดใจว่า ขนมขบเคี้ยวของโปรดอย่างผลไม้แห้ง จะมีคุณค่าทางสารอาหารมากกว่าผลไม้สด เพราะขบวนการขจัดน้ำจากอาหาร ทำให้ร่างกายเราดูดซึมสารอาหารบางชนิดได้ดีกว่า แถมในแครนเบอร์รี่แห้งและองุ่นแห้ง ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าในแบบสดถึง 2 เท่า แต่อย่าลืมเช็กปริมาณน้ำตาลในส่วนผสมให้ดี โดยเฉพาะในผลไม้ที่มีรสจัด อย่างเช่นแครนเบอร์รี่ เพราะมันอาจเพิ่มน้ำหนักให้คุณโดยไม่รู้ตัวจากการกินมากจนเกินไป  



 

 

+หุ่นดีขึ้นด้วยวิธีแสนง่าย
 

ลองคำนึงถึงกิจวัตรประจำวันของคุณ แล้วกาทิ้งกิจกรรมที่ทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น อย่างเช่น เปลี่ยนเป็นใช้บันไดแทนลิฟต์ หรือบันไดเลื่อน ลงจากรถประจำทาง หรือรถโดยสารก่อนหน้า 2 ป้าย เพื่อเดิน ลองหาเส้นทางที่มีวิวให้ชมตามข้างทางจะช่วยลอทอนความรู้สึกเหนื่อยได้เป็นอย่างดี จากนั้นเพิ่มตารางออกกำลังกายไปในไดอารีของคุณในแต่ละสัปดาห์ เช่นเดียวกับที่คุณเขียนเวลานัดหมอฟัน เพื่อเป็นหลักฐานย้ำเตือน ถ้าหากให้การออกกำลังได้ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ควรนัดเพื่อน หรือคนสนิทให้ไปฟิตเนสพร้อมๆ กัน เพื่อให้ช่วยกันเตือนไม่ให้หลงลืมวัน และอีกหนึ่งวิธีที่ได้ผลจริงแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ ทานผักและผลไม้ให้เพิ่มขึ้น ผลการวิจัยครั้งล่าสุดเผยว่า หากทานผักต้ม 3 มื้อ ทุกๆ วัน หมายถึงคุณได้รับแคลอรีน้อยลงกว่าการทานเหมือนเดิมถึง 360 แคลอรี (นั่นหมายถึงคุณจะลดน้ำหนักได้ 1.5 กิโลกรัม ภายใน 1 เดือน ว้าว!!!) และหากคุณรักขนมหวานและช็อกโกแลตเป็นชีวิตจิตใจ ลองทานช็อกโกแลตแบบไม่ให้รู้สึกผิดมากเกินไป เราแนะนำว่า ให้เลือกช็อกโกแลตที่มีโกโก้เกิน 80% เพราะมันจะมีสารต้านอนุมูลอิสระมาก แต่ปริมาณไขมัน และน้ำตาลน้อย เลยทำให้แคลอรีน้อยตามไปด้วย หรือถ้าอยากกินไอศกรีมมากจริงๆ ลองแช่ผลองุ่นไว้ในช่องแช่แข็ง นำมาทานแทนไอศกรีม เพื่อสุขภาพ และรสชาติที่ดีกว่าเดิม

 
+หากคุณปวดท้องบ่อย
 


 

ลองใช้สมุนไพรมาเป็นตัวช่วยในการบรรเทาอาการปวดท้องดูสิ รากพืช และสมุนไพรจะช่วยคุณได้ อย่างขิงจะช่วยให้แก้อาการอาหารไม่ย่อย สะระแหน่ และยี่หร่า จะช่วยทุเลาโรคลมในกระเพาะ และอาการปวดช่องท้อง จะดื่มกับชา หรือใส่เข้าไปขณะทำอาหารก็ได้ นอกจากนี้การกินอาหารรสชาติอ่อน อย่างกล้วย ข้าว ขนมปัง และโยเกิร์ต ที่มีจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ ล้วนแล้วแต่เป็นอาหารที่มีสภาพเป็นกรด มีน้ำตาล และแป้งในระดับปกติ เหมาะสำหรับคนปวดช่องท้อง และคนที่อ่อนล้าหลังจากท้องร่วงได้ดีที่สุด



 
 
 

Copyright © นิตยสารคู่หูเดินทาง / MJ Media Company Limited