ภัยใกล้ตัว
 
 

‘ล็อคก่อนช็อค'
 

      

 

       ใครจะไปรู้ว่ายุคนี้ ภัยร้ายๆ รูปแบบใหม่มันจะแวะมาทักทายใกล้เราชนิดหายใจรดต้นคอกันแบบนี้ล่ะครับ! วันนี้ขออนุญาต บก. และทีมงานนำประสบการณ์ระทึกแนวๆ คอลัมน์ ‘ภัยใกล้ตัว’ มาบอกเล่าบอกต่อกันให้ผู้อ่าน Bus Buddy ได้ระแวดระวังภัยรูปแบบใหม่ชนิดนี้กันไว้นะครับ

       เมื่อไม่นานมานี้ผมมีนัดคุยกับลูกค้าแถวๆ ห้างชื่อดังแห่งหนึ่งบนถนนลาดพร้าว หลังจากเสร็จธุระตอนนั้นก็เป็นเวลาเกือบๆ จะสามทุ่มแล้ว ผู้คนในห้างบางตาไปพอสมควร ร้านรวงต่างๆ ก็เริ่มทะยอยปิดกันแล้ว ผมจึงตัดสินใจกลับมาที่รถแทนที่จะเอ้อระเหยลอยลมเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา จากร้านกาแฟมาถึงประตูห้างที่จะต่อออกไปยังลานจอดรถ เหตุการณ์ทุกอย่างดำเนินไปอย่างปรกติ อีกไม่กี่สิบเมตรผมก็จะถึงรถที่จอดอยู่แล้ว ทว่าหลังจากนั้นเพียงไม่กี่อึดใจผมก็รู้สึกว่ามีคนเดินตามมาในระยะพอได้ยินเสียงฝีเท้า ผมหันขวับไปด!ู ในเงาสลัวของลานจอดเป็นชายคนหนึ่ง ร่างสัดทัด สูงในราว 175 ซม. ไล่เลี่ยกับผม กำลังทำทีเป็นเดินชำเลืองมองหารถของเขาทางนั้นทีทางนี้ แม้วาบหนึ่งของความคิดจะเริ่มรู้สึกหวาดระแวงชายผู้นี้ แต่อีกใจกลับไพล่คิดไปว่า.. ผมมองโลกในแง่ร้ายเกินไปหรือเปล่า? ชายคนนั้นก็อาจเป็นลูกค้าของห้างและก็อาจจอดรถไว้ใกล้ๆ กับผมเหมือนกัน

        ในขณะที่อีกไม่กี่สิบก้าวจะถึงตำแหน่งรถของผม สายตาและสมองช่างสงสัยก็จับปราดไปยังรถอีกคันที่จอดอยู่ติดๆ กันซึ่งบัดนี้ในละแวกนั้นเหลือรถจอดอยู่เพียงแค่สองคันเท่านั้น คันหนึ่งเป็นรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ของผม ส่วนอีกคันหนึ่งเป็นรถเก๋งทรงสปอร์ตสวยเฉี่ยว ปราดหนึ่งสมองผมตั้งคำถามขึ้นในทันทีว่าชายใบหน้ากร้านชีวิตคนที่กำลังเดินไล่หลังผมมาในระยะไม่เกินกระโจนนั้น จะเป็นเจ้าของรถยนต์หรูราคาแพงระยับคันนี้เหรอ? แทบไม่ต้องรอคำตอบจากปาก สมองของผมก็ชิงสั่งการโดยบัดดลว่า ลางไม่ดีแล้ว! ผมจึงทำทีหันกลับไปมองรอบๆ ลานจอดเพื่อประเมินชายต้องสงสัยนั่นดูอีกครั้ง -- พลันเมื่อสายตาสบกัน เขาก็รีบแสร้งเหลียวซ้ายแลขวาเสมือนคนหารถไม่เจอ แวบหนึ่งขณะที่เขาทำทีหันหา ผมสังเกตว่าเขาสะพายกระเป๋าผ้ามอๆ มาด้วยหนึ่งใบ นาทีนั้นบอกตรงๆ ผมชักเสียวหลังเต็มทน เลือดในสมองพุ่งปี๊ดป๊าดประดุจว่าจะหาวิธีเอาตัวรอดจากสถานการณ์เช่นนี้อย่างไรดี หากกระทาชายรายนั้นไม่ได้มาดี จะด้วยโชคช่วยหรือด้วยอะไรก็แล้วแต่ บังเอิญผมดันถือแก้วกาแฟที่ยังพร่องไม่มากติดมือออกมาจากร้านด้วย แทนที่จะรีบรี่ขึ้นรถแล้วสตาร์ทเครื่องกดล็อคประตูอย่างคนกำลังหวาดระวัง  วินาทีนั้นผมกลับตัดสินใจสืบเท้าเดินผ่านรถของตัวเองต่อไปแล้วเลี้ยวขวาที่มุมของตึกเพื่อเดินไปยังกลุ่มรถที่เหลือซึ่งผมมองเห็นไกลๆ ว่ายังมีจอดค้างอยู่อีกสามสี่คัน -- อย่างที่คิดไว้.. ชายต้องสงสัยยังไม่เลิกสืบเท้าตามมา เมื่อเดินมาถึงกลุ่มรถดังกล่าวผมจึงรีบทำทีหยิบกุญแจจะไขประตูรถเก๋งที่อยู่คันริม ในขณะที่ชายคนดังกล่าวก็เร่งสืบเท้าตามเข้ามาทันที! ณ เสี้ยววินาทีระทึกนั้น ผมกลับลำทำทีเป็นดึงกุญแจออกจากประตูรถแล้วเดินสวนออกจากชายคนนั้นในระยะห่างที่น่าจะพอปลอดภัยหากเขาเลือกที่จะชาร์จเข้ามาทำอะไรผมสักอย่าง จากนั้นก็ทำทีเป็นมองหาถังขยะที่จะใช้ทิ้งแก้วกาแฟในมือ
       
       เมื่อเห็นสถานการณ์พลิกผัน ชายคนดังกล่าวที่กำลังยืนหน้าเอ๋ออยู่ สักพักเขาก็ทำทีเป็นเดินไปหยิบของที่อยู่หลังรถซึ่งจอดอยู่ติดกับรถเก๋งคันที่ผมทำเป็นไขกุญแจหลอกๆ หลังจากแน่ใจว่าไอ้ที่ระแวงภัยอยู่นั้นไม่ผิดแน่ผมจึงสืบเท้าเร่งเดินเลี้ยวกลับไปที่รถของตัวเองและสตาร์ทเครื่องออกจากที่จอดไปทันที เมื่อขับผ่านจุดที่หมอนั่นยังซุ่มอยู่เพราะคิดว่าประเดี๋ยวผมก็คงเดินกลับไปที่รถคันนั้นแน่ ผมจึงตัดสินใจว่าคงต้องรีบขับรถไปแจ้ง รปภ. เพื่อให้มาตรวจสอบดูชายคนนั้นให้แน่ใจอีกครั้งก่อนที่มันจะเปลี่ยนใจไปเล่นงานเหยื่อรายอื่นแทน และก็เป็นอย่างที่ผมนึกไว้ไม่มีผิด หลังจากเจ้าหน้าที่ รปภ. เข้าไปสอบถามว่ามายืนซุ่มอยู่แถวๆ นี้ทำไม มันก็ตอบหน้าซื่อว่า.. “มาซื้อของในห้างแล้วหาที่จอดรถไม่เจอ” พอถามหนักเข้าว่ารถอะไร ยี่ห้อไหน มันก็ยังมั่วไปน้ำขุ่นๆ อีกว่า.. “ขี่รถมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนมา จำยี่ห้อไม่ได้” แต่ดันมาหารถบนลานจอดรถยนต์ซึ่งอยู่ห่างกันตั้งสามสี่ชั้น สุดท้ายเจ้าหน้าที่ รปภ. เห็นว่าชักผิดสังเกตจึงขอตรวจค้นของในกระเป๋าแล้วก็พบกับของดีเข้าให้ จริงๆ เพราะในกระเป๋าใบนั้นมีทั้งมีดปลายแหลม ไขขวง และก็ที่ช็อตไฟฟ้า! ครับ คงไม่ต้องเล่าต่อว่าจุดจบของเรื่องนี้อยู่ที่สถานีไหน? เอาเป็นว่าถือว่าผมนำประสบการณ์เฉียดนี้มาเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นเครื่องเตือนสติให้กับคนที่ขับรถด้วยกันไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชาย ก่อนจะลงจากรถ ก่อนขึ้นรถ หรือไม่ว่าจะอยู่บนรถแล้วก็ตามควรหมั่นสังเกตสิ่งที่ผิดปรกติหรือมีท่าทีที่ไม่น่าไว้วางใจของบุคคลแปลกหน้าเอาไว้ก่อนเป็นดีครับ เป็นการป้องกันไว้ก่อนยังไงก็ดีกว่าแก้หรือมานั่งเสียใจทีหลังล่ะครับ

อ้อ.. แล้วก็ไม่แนะนำให้เอาอย่างผมนะครับ วิธีนี้มันอันตรายเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคุณผู้หญิง



 
 
 

Copyright © นิตยสารคู่หูเดินทาง / MJ Media Company Limited